ทำไมการเรียนพิเศษตัวต่อตัวถึงได้ผลดีที่สุด
ในยุคสมัยที่การแข่งขันสูงแม้แต่การสอบเข้า สอบต่อก็ต้องแข่งขันสูงมากขึ้น การเรียนในโรงเรียนเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพออีกต่อไป นักเรียนหลายคนจึงอยากเรียนพิเศษ เรียนพิเศษตัวต่อตัว เพิ่มเพื่อเติมความรู้ในส่วนที่โรงเรียนให้ไม่หมด หรือเสริมความรู้ในส่วนที่เรียนไม่ทันในโรงเรียน เพราะการเรียนในโรงเรียนนั้นบางครั้งก็สอนโดยสอนแบบปล่อยผ่านไม่มีเจาะลึก หรือเสริมตรงไหนเหมือนการเรียนพิเศษ เรียนพิเศษตัวต่อตัวทำให้ความรู้หรือพื้นฐานนั้นไม่แน่นพอที่จะไปทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยหรือต่อในระดับสูงมากขึ้นไป ซึ่งการเรียนพิเศษก็มีหลากหลายแบบทั้งเรียนแบบคอร์ส เรียนแบบเฉพาะวิชา หรือเรียนกับอาจารย์ชื่อดัง เข้าคอร์สเรียนออนไลน์ และแบบเรียนพิเศษตัวต่อตัว ซึ่งการเรียนแต่ละแบบก็เหมาะกับเด็กต่างกันออกไป คนเป็นผู้ปกครองควรเลือกให้เหมาะสมกับเด็กด้วย
การเรียนพิเศษที่ถือว่าได้ผลดีมากที่สุดก็คงต้องนึกถึงการเรียนพิเศษตัวต่อตัว ที่เน้นตัวเด็กเป็นสำคัญ สอนแบบ อาจารย์ผู้สอน 1 คน ต่อเด็กนักเรียน 1 คน ซึ่งถือว่าเป็นการเรียนที่ได้ผลมากที่สุด เพราะอาจารย์สามารถดูแลเด็กได้ดี สามารถพูดคุยเพื่อทำความรู้จักกับเด็กได้เป็นอย่างดี สามารถคุยเรื่องปัญหาการเรียน ปัญหาพื้นฐานของเด็กได้ดี การเรียนพิเศษตัวต่อตัวยังเน้นการสอน เน้นความรู้จากพื้นฐานของเด็กเป็นหลัก ทำให้พื้นฐานความรู้แน่นมากขึ้นและเด็กอยากเรียนมากขึ้น เพราะเรียนแล้วทำได้ ผลสอบดีขึ้น ทำให้ตัวเด็กรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นไปด้วย
การเรียนพิเศษของเด็กนั้นผู้ปกครองมักจะเป็นฝ่ายมองหาคอร์สการเรียนให้เด็กเอง ซึ่งบางครั้งก็ไม่ได้มีการพูดคุยกับตัวเด็กมาก่อนเลยว่าเขาอยากเรียนรึเปล่า ผู้ปกครองควรสอบถามบุตรหลานก่อนว่าเขานั้นอ่อนเรื่องไหนอยากได้อาจารย์สอนพิเศษแบบไหน อยากเรียนแบบไหน ซึ่งหากเด็กอยากเรียนพิเศษตัวต่อตัว ก็ลองให้เขามีสิทธิเลือกอาจารย์เองเพื่อความสบายใจของตัวเด็กและผู้ปกครองเพราะสถาบันที่เน้นสอนเรียนพิเศษตัวต่อตัว จะคัดเลือกอาจารย์ที่มีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการณ์การเรียนการสอน ที่สำคัญมีความไว้วางใจได้ ทำให้สบายใจได้ว่า ตัวเด็กจะได้รับความรู้จากอาจารย์ที่เลือกให้มาสอน หรือเลือกเรียนพิเศษตัวต่อตัวด้วยนั้นจะสอนและให้ความรู้ได้อย่างเต็มที่
การเรียนพิเศษแต่ละแบบนั้นอย่างที่บอกไปว่าเหมาะกับเด็กไม่เหมือนกัน การเรียนแบบคอร์สเหมาะสำหรับเด็กที่หัวไว ตั้งใจเรียน ขยันพื้นฐานแน่นอยู่แล้ว แต่การเรียนพิเศษตัวต่อตัวนั้นกับเหมาะสำหรับเด็กทุกประเภทเพราะหลักสูตรการเรียนการสอนนั้นจะไม่ตายตัวแต่จะเน้นไปที่ตัวเด็กเป็นสำคัญ เน้นสอนจากพื้นฐานที่เด็กมีอยู่ เรียนพิเศษตัวต่อตัว นั้นจะเน้นการสอนทุกวิชาไม่เน้นสอนแค่บางวิชาช่วยให้เด็กเข้าใจการเรียนมากขึ้น และได้เทคนิคดีๆ เทคนิคลัดที่หาไม่ได้ในห้องเรียนเป็นของแถมติดตัวไปด้วย เพราะอาจารย์ที่มาสอนหรือเข้าร่วมสถาบัน เรียนพิเศษตัวต่อตัว จะเน้นเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังมากมาย ช่วยให้เด็กเรียนได้อย่างสนุกมาขึ้น ด้วยวัยที่ใกล้เคียงกันนั้นเอง
อาจารย์นั้นมีผลมากสำหรับการเรียนการสอนในบางวิชา เด็กบางคนอาจจะไม่ชอบไม่เข้าใจ ไม่อยากเรียนบางวิชาเพียงเพราะไม่ชอบอาจารย์ผู้สอนก็มีมาแล้ว เรียนในโรงเรียนนั้นต่างจากการเรียนพิเศษตัวต่อตัว เพราะเมื่อตัวเด็กมีอคติต่ออาจารย์ผู้สอนบางครั้งทำให้กลายเป็นเด็กไม่ตั้งใจเรียนไปเลย เพราะเมื่อเปลี่ยนอาจารย์ผู้สอนเด็กที่ไม่มีพื้นฐานจึงเรียนไม่รู้เรื่องและกลายเป็นไม่อยากเรียนไปในที่สุด ซึ่งแน่นอว่าการไปเรียนแบบคอร์สจึงไม่เหมาะเลย เพราะตัวเด็กที่ไม่มีพื้นฐาน การเรียนพิเศษตัวต่อตัว จึงเหมาะสมที่สุดเพราะสามารถเริ่มปูพื้นฐานให้เด็กใหม่ได้ตั้งแต่ต้น ช่วยให้เด็กมีความตั้งใจเรียนมากขึ้น และสามารถทำข้อสอบของวิชานั้นได้ เด็กก็จะรู้สึกดีและอยากเรียนมากขึ้น
การเรียนพิเศษตัวต่อตัว นั้นไม่ใช่แค่การเรียนทั่วไป เพราะตัวเด็กจะได้รับประสบการณ์ดีในการเรียนที่แน่นอนว่าในรั้วโรงเรียนคงไม่สามารถให้เขาได้แน่นอน บางครั้งการเรียนพิเศษพ่อแม่ หรือผู้ปกครองอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นเพราะลูกอาจจะเรียนดีอยู่แล้วหรือไม่มีปัญหาเรื่องการเรียนแต่บางครั้งการปล่อยให้เด็กออกไปสัมผัสการเรียนนอกห้องเรียน อย่างการเรียนพิเศษตัวต่อตัว ที่บ้านหรือที่สถาบันต่างๆ นอกจากจะช่วยให้เขาได้ความรู้ดีๆที่ในห้องเรียนให้ไม่ได้แล้ว เขายังจะได้พบเจอเพื่อนดีๆ สังคมดี หรือได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับอาจารย์ผู้สอนเรียนพิเศษตัวต่อตัวที่มีความรู้ความเข้าใจในรั้วมหาวิทยาลัย ให้คำปรึกษาดีๆ หรือช่วยให้คำแนะนำเรื่องอนาคตเรื่องสิ่งที่เขาอยากจะเป็นได้ดีกว่าผู้ปกครองก็เป็นได้ เรียนพิเศษตัวต่อตัว นั้นจึงเป็นการเรียนที่นอกจากได้ความรู้แล้วยังได้ประสบการณ์ดีๆกลับมาอีกมากมายแน่นอน
บทความล่าสุดอื่นๆ